จริงๆแล้วหลักการผลิตสารคดี
มีหลักเดียวเท่านั้น.." ทำอย่างไรที่จะให้คนดูงานสารคดีเรื่องที่เราผลิต
ตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่ลุกหนีไปไหน หรือกดเปลี่ยนช่อง "
1. ภาพตัวพิธีกร หรือผู้ดำเนินรายการ จะเดี่ยวคู่
เป็นดารา อาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ จะเป็นใครก็ได้.....
คอยถามสิ่งที่คิดว่าคนทั่วไปอยากรู้ ( คนดูไม่ได้ไปด้วย )
….คอยเปิดประเด็นเพิ่ม ( ถ้าข้อสงสัยยังไม่หมด ) ….คอยสรุปและดึงเนื้อหาในเรื่องออกมาให้คนดูรู้เรื่องให้ได้ ( ไม่ให้หลุดคอนเซ็ป )
….คอยเปิดประเด็นเพิ่ม ( ถ้าข้อสงสัยยังไม่หมด ) ….คอยสรุปและดึงเนื้อหาในเรื่องออกมาให้คนดูรู้เรื่องให้ได้ ( ไม่ให้หลุดคอนเซ็ป )
2. ภาพผู้ถูกสัมภาษณ์ หรือผู้เล่าเรื่องราว มีหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่จะนำเสนอให้คนที่ไม่รู้ได้รู้จริง
( ให้ได้รับข้อมูลถูกต้อง ) และให้คนที่ไม่เข้าใจได้เข้าใจ ( ไม่สับสน )
ด้วยบางครั้งผู้เล่ามีความรู้มากมาย จึงเล่าสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก พิธีกรจะต้องคอยตะล่อมให้เข้าสู่เนื้อหาที่ตรงประเด็น หรือ ถ้าผู้เล่าอธิบายไม่ละเอียด
ข้ามไปมา พิธีกรก็จะต้องคอยสรุปถามให้แน่ชัดว่า สิ่งที่เราเข้าใจคือสิ่งที่ผู้เล่ากำลังพูดถึงใช่หรือไม่...
3. ภาพตัวพิธีกรและภาพผู้เล่าเรื่องราว ทั้ง 2 คนอยู่ในภาพเดียวกัน ( ต่างกันกับแบบ 1 ที่มีพิธีกรคนเดียว , และแบบ 2 มีตัวผู้เล่าเรื่องราวคนเดียว )
4. ภาพในเนื้อหาแต่ใช้เสียงคนประกอบ เสียงที่ใช้อาจเป็นเสียงพิธีกร หรือเสียงผู้เล่าเรื่องราว ถ้าบางครั้งผู้เล่าเรื่องราวมีเวลาให้เราน้อย
เราสามารถเปลี่ยนเสียงเป็นคนบรรยายอื่นก็ได้ เพื่อไม่ให้เกิดความเบื่อหน่าย เช่น ผู้เล่าเรื่องราวเป็นชาย ช่วงอธิบายอาจเป็นเสียงผู้หญิง...
5. ภาพในเนื้อหาแต่ใช้เสียงเพลงประกอบไปกับภาพ ภาพสนุกตื่นเต้นก็ใช้เพลงตื่นเต้น เพลงประกอบ จะช่วยเสริมให้เนื้อเรื่องในสารคดีน่าสนใจมากขึ้น
ด้วยบางครั้งผู้เล่ามีความรู้มากมาย จึงเล่าสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก พิธีกรจะต้องคอยตะล่อมให้เข้าสู่เนื้อหาที่ตรงประเด็น หรือ ถ้าผู้เล่าอธิบายไม่ละเอียด
ข้ามไปมา พิธีกรก็จะต้องคอยสรุปถามให้แน่ชัดว่า สิ่งที่เราเข้าใจคือสิ่งที่ผู้เล่ากำลังพูดถึงใช่หรือไม่...
3. ภาพตัวพิธีกรและภาพผู้เล่าเรื่องราว ทั้ง 2 คนอยู่ในภาพเดียวกัน ( ต่างกันกับแบบ 1 ที่มีพิธีกรคนเดียว , และแบบ 2 มีตัวผู้เล่าเรื่องราวคนเดียว )
4. ภาพในเนื้อหาแต่ใช้เสียงคนประกอบ เสียงที่ใช้อาจเป็นเสียงพิธีกร หรือเสียงผู้เล่าเรื่องราว ถ้าบางครั้งผู้เล่าเรื่องราวมีเวลาให้เราน้อย
เราสามารถเปลี่ยนเสียงเป็นคนบรรยายอื่นก็ได้ เพื่อไม่ให้เกิดความเบื่อหน่าย เช่น ผู้เล่าเรื่องราวเป็นชาย ช่วงอธิบายอาจเป็นเสียงผู้หญิง...
5. ภาพในเนื้อหาแต่ใช้เสียงเพลงประกอบไปกับภาพ ภาพสนุกตื่นเต้นก็ใช้เพลงตื่นเต้น เพลงประกอบ จะช่วยเสริมให้เนื้อเรื่องในสารคดีน่าสนใจมากขึ้น
6. นำภาพทั้งหมด
ตั้งแต่ภาพแบบที่ 1- 5 นำมารวมกันอยู่ในเฟรมเดียวกัน เช่น
ภาพตัวพิธีกรกับภาพเหตุการณ์ที่คนกำลังทำงานอยู่ในเฟรมเดียวกัน
หรือ ภาพผู้เล่ากับภาพเหตุการณ์อยู่ในเฟรมเดียวกัน อาจแบ่งภาพเป็น 2 - 3 - 4 ช่องในเฟรมเดียวกัน ก็ได้
หรือ ภาพผู้เล่ากับภาพเหตุการณ์อยู่ในเฟรมเดียวกัน อาจแบ่งภาพเป็น 2 - 3 - 4 ช่องในเฟรมเดียวกัน ก็ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น